ปัจจุบันไม่ว่าในชีวิตประจำวัน การเรียน รวมถึงการทำงาน อุปกรณ์ดิจิทัลล้วนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเรา มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนสิ่งต่างๆรอบตัว แต่หลายคนไม่เห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับร่างกายจากการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ได้ โดยอาการนี้เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานนานเป็นระยะเวลานาน ๆ โดยไม่ได้ทำการพักผ่อน หรือเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ
เรียนรู้เกี่ยวกับทักษะพลเมืองดิจิทัลที่น่าสนใจคลิก Digital Citizenship ทักษะพลเมืองดิจิทัล
ออฟฟิศซินโดรม(Office Syndrome) คืออะไร
ออฟฟิศซินโดรม(Office Syndrome) หมายถึง กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด เนื่องมาจากรูปแบบการทำงานที่ใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำๆ เป็นระยะเวลานานต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบและปวดเมื่อยตามอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณ คอ หลัง ไหล่ บ่า แขน หรือข้อมือ
ตัวอย่างอาการออฟฟิศซินโดรม(Office Syndrome)
- ปวดเมื่อยคอ บ่า ไหล่ สะบัก: มักพบมากที่สุด มักเป็นผลมาจากท่าทางการนั่งทำงานที่ไม่เหมาะสม เช่น นั่งไม่เต็มเก้าอี้, พิงหนักเก้าอี้ไม่เต็มหลัง, นั่งเอียงตัวขณะใช้งานคอมพิวเตอร์
- ปวดศีรษะ: มักเกิดจากการใช้สายตาจดจ่อกับหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
- ปวดตา: มักเกิดจากการใช้สายตามากเกินไป รวมถึงการปรับแสงสว่างของจอไม่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการใช้งาน
- ชาตามแขน ขา: เกิดจากการกดทับเส้นประสาท มักพบในผู้ที่นั่งไขว่ห้างเป็นเวลานาน
- อ่อนล้า: เกิดจากการทำงานหนัก มีภาวะเครียด กังวลจากการทำงาน ภาวะเหล่านี้สะสมให้เกิดอาการอ่อนล้าระหว่างวัน
- ปวดหลัง: เกิดจากการนั่งหลังค่อม เก้าอี้ทำงานไม่รองรับสรีระ หรือเก้าอี้กับโต๊ะที่นั่งทำงานไม่เหมาะสมกับการทำงานเป็นเวลานาน
- ปวดข้อมือ: เกิดจากการใช้เมาส์เป็นเวลานาน หรือใช้ด้วยท่าทางที่ผิด
อาการเหล่านี้อาจ เกิดขึ้นเป็นพักๆ หรือเรื้อรัง ไปจนถึงมีความ รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และส่งผลต่อการทำงานและชีวิตประจำวันในที่สุด นอกจากอาการทางกายแล้ว ออฟฟิศซินโดรมยังอาจส่งผลต่อ
- อารมณ์: เมื่อร่างกายมีอาการออฟฟิศซินโดรม(Office Syndrome) จะส่งผลกระทบต่ออารมณ์ระหว่างวัน อาจะให้ความรู้สึกกวนใจ หงุดหงิด และสามารถสะสมไปเป็นอารมณ์ทางลบที่แสดงออกมาโดยไม่ตั้งใจได้ รวมถึงส่งผลต่อระดับความมุ่งมั่นตั้งใจต่อการรับภาระงานอีกด้วย
- การนอนหลับ: ความไม่ปกติต่อร่างกายส่งผลโดยตรงต่อการนอนหลับ ความปวดเมื่อยและตึงตามส่วนต่างๆ ทำให้คุณภาพการนอนลดลง เป็นผลต่อเนื่องให้เกิดความอ่อนล้าและอาการออฟฟิศซินโดรม(Office Syndrome) อื่นๆ ซึ่งส่งผลต่อกันเป็นลูกโซ่
- สมาธิ: ความปวดเมื่อยตามร่างกาบส่งผลโดยตรงต่อสมาธิและความสามารถในการจดจ่อ สมาธิที่ถูกรบกวน อาจหมายถึงจำนวนและคุณภาพของงานที่ทำระหว่างวันได้
สาเหตุของอาการ ออฟฟิศซินโดรม(Office Syndrome)
สาเหตุที่ทำให้ออฟฟิศซินโดรมเกิดขึ้นได้มีหลายปัจจัย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานในท่าที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นหลักๆ ดังนี้
1. การนั่งช้างติดจอ:
การนั่งช้างติดจอเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ออฟฟิศซินโดรมเกิดขึ้น การนั่งช้างติดจอคือการนั่งในท่าที่ไม่ถูกต้อง เช่น การก้มหรือเงยหลัง, การหมุนคอ, และการกระดกไหล่ เมื่อนั่งช้างติดจอเป็นเวลานานๆ จะทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเอียงของคอ หลัง ไหล่ แขน และข้อมือถูกยึดติดและยืดตึงอยู่ในท่าที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการปวด อักเสบ และความผิดปกติในการทำงานของกล้ามเนื้อได้
2. การใช้คีย์บอร์ดและเมาส์:
การใช้คีย์บอร์ดและเมาส์ในระยะเวลานานๆ โดยไม่มีการพักผ่อนหรือออกกำลังกายเป็นเหตุที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ออฟฟิศซินโดรมเกิดขึ้น การใช้คีย์บอร์ดและเมาส์ต่อเนื่องจะทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเอียงของแขน หน้าท้อง เเละข้อมือถูกยึดติดและยืดตึงอยู่ในท่าที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการปวด อักเสบ และความผิดปกติในการทำงานของกล้ามเนื้อได้
3. การนั่งหรือยืนในท่าที่ไม่ถูกต้อง:
การนั่งหรือยืนในท่าที่ไม่ถูกต้อง เช่น การนั่งหรือยืนโอ้อวด การเหยียดคอหรือไหล่ การค้างแขนหรือข้อมือ เป็นต้น สามารถทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเอียงของคอ หลัง ไหล่ แขน และข้อมือถูกยึดติดและยืดตึงอยู่ในท่าที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการปวด อักเสบ และความผิดปกติในการทำงานของกล้ามเนื้อได้
4. สภาวะการทำงานที่มีความเครียดสูง:
บางครั้งการทำงานในสถานที่ที่มีความเครียด เช่น การทำงานในสถานที่ที่มีความกดดันสูง การตั้งเป้าหมายที่ไม่สมเหตุสมผล หรือการโดนกดดันให้ทำงานเกินความสามารถ เป็นต้น สภาวะการทำงานที่มีความเครียดอาจทำให้คุณต้องทำงานแบบเร่งรีบ ไม่ได้พักผ่อนให้เพียงพอ และมีความตึงเครียดสูง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของออฟฟิศซินโดรม
วิธีการป้องกัน และแก้ไขอาการออฟฟิศซินโดรม(Office Syndrome)
1. ปรับท่าทางการนั่ง: ปรับท่าทางการนั่งให้ถูกต้อง โดยใช้เก้าอี้ที่มีความสูงที่เหมาะสม ปรับตั้งคอให้อยู่ในท่าตรง และรักษาระยะห่างระหว่างตัวและโต๊ะให้เหมาะสม นอกจากนี้ควรทำการยืดเวลาเป็นช่วงๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อและเส้นเอียงของร่างกายได้พักผ่อน
2. ออกกำลังกาย: ทำการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเส้นเอียงของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณที่มักจะเกิดปัญหา เช่น คอ หลัง ไหล่ แขน และข้อมือ การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและสามารถทนทานต่อการใช้งานในสถานที่ที่มีคอมพิวเตอร์ได้มากขึ้น
3. การพักผ่อน: ทำการพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนและฟื้นตัว ควรทำการพักผ่อนเบื้องต้นโดยใช้ช่วงเวลาหยุดพักสั้น ๆ ระหว่างการทำงาน เช่น ยืดตัว เปลี่ยนท่านั่ง หรือเดินไปรับน้ำดื่ม
4. การจัดที่ทำงาน: จัดที่ทำงานให้เหมาะสมและสะดวกสบาย โดยใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความสูงที่ถูกต้อง และจัดเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมกับร่างกาย
5. การฝึกสมาธิ: การฝึกสมาธิ เช่น การทำโยคะหรือการปฏิบัติธรรมช่วยให้คุณสามารถควบคุมอารมณ์และลดความเครียดได้ ซึ่งสามารถช่วยลดออฟฟิศซินโดรมได้
6. การใช้เครื่องมือที่เหมาะสม: การใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เช่น คีย์บอร์ดและเมาส์ที่มีคุณภาพดี และสามารถปรับได้ตามความสบายของร่างกาย เพื่อลดการกดดันที่เกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อและเส้นเอียงของร่างกาย
7. การปรับแต่งสภาพแวดล้อม: ปรับแต่งสภาพแวดล้อมในที่ทำงานให้เหมาะสม เพื่อให้คุณรู้สึกสบายและผ่อนคลาย เช่น การใช้ไฟสมองเพื่อให้มีแสงสว่างเพียงพอ การใช้เครื่องปรับอากาศให้อุณหภูมิและความชื้นเหมาะสม และการใช้เครื่องช่วยสำหรับการทำงาน เช่น ตักเม็ดยาและเม็ดอาหาร
นี่คือวิธีการป้องกันและแก้ไขออฟฟิศซินโดรมที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน โดยการใส่ใจและดูแลร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่เพียงแค่การปรับแต่งสภาพแวดล้อมในที่ทำงานเท่านั้น คุณจะสามารถลดออฟฟิศซินโดรมได้อย่างมีประสิทธิภาพและพร้อมที่จะใช้งานในระยะยาว
เรียนรู้ทักษะการใช้งานดิจิทัลอย่างสมดุล คลิก Digital Use ทักษะสร้างสมดุลชีวิตดิจิทัล
สรุป
ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) เป็นกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืดที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานนานเป็นระยะเวลานาน ๆ การป้องกันและแก้ไขออฟฟิศซินโดรมสามารถทำได้โดยการปรับท่าทางการนั่ง, การออกกำลังกาย, การพักผ่อน, การจัดที่ทำงาน, การฝึกสมาธิ, และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสม
อ้างอิง
- ออฟฟิศซินโดรม – การป้องกันและท่าบริหารบอกลา Office Syndrome
- โรคออฟฟิศซินโดรมคืออะไร เป็นแล้วต้องรักษาด้วยวิธีใด? https://thainakarin.co.th/article-from-doctor/how-to-fix-office-syndrome/
คู่มือคนไทย GO Cyber https://www.thaipdf.com/2153-thai-cyber-go-handbook-youth-edition/