ปัจจุบันภัยคุกคามบนโลกดิจิทัลมีเพิ่มมากขึ้น และมีหลายรูปแบบ เช่น มัลแวร์ ไวรัส และการแอบแฝงข้อมูลเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน ดังนั้น เพื่อปกป้องตนเอง ครอบครัว ทักษะการป้องกันภัยคุกคามบนโลกดิจิทัลเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีในยุคปัจจุบัน
เรียนรู้เกี่ยวกับทักษะพลเมืองดิจิทัลที่น่าสนใจคลิก Digital Citizenship ทักษะพลเมืองดิจิทัล
Digital Security ทักษะการป้องกันภัยคุกคามบนโลกดิจิทัล คืออะไร
Digital Security ทักษะการป้องกันภัยคุกคามบนโลกดิจิทัล คือ ชุดความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการปกป้องตนเอง ครอบครัว ข้อมูลส่วนบุคคล และอุปกรณ์ดิจิทัลจากภัยคุกคามบนโลกออนไลน์ โดยรวมหมายถึงทักษะ
- การตระหนักรู้เกี่ยวกับภัยคุกคาม
- วิเคราะห์ และเท่าทันต่อภัยคุกคาม
- การป้องกัน และจัดการต่อภัยคุกตามที่มาถึง
ภัยคุกคามบนโลกดิจิทัล
1. มัลแวร์ (Malware):
โปรแกรมที่เขียนขึ้นเพื่อสร้างความเสียหาย หรือขโมยข้อมูลจากอุปกรณ์ ตัวอย่างมัลแวร์:
- ไวรัส: เป็นมัลแวร์ที่สามารถแพร่กระจายตัวเองจากไฟล์หนึ่งไปยังอีกไฟล์หนึ่ง โดยไม่ต้องอาศัยการแทรกแซงจากผู้ใช้ มักแนบมากับไฟล์แนบอีเมล โปรแกรม หรือเว็บไซต์ที่ติดไวรัส เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์หรือเว็บไซต์ที่ติดไวรัส ไวรัสจะเข้าไปฝังตัวในระบบคอมพิวเตอร์ และเริ่มแพร่กระจายตัวเอง ไวรัสบางชนิดอาจสร้างความเสียหายต่อระบบไฟล์ หรือขโมยข้อมูลส่วนตัว
- เวิร์ม: เป็นมัลแวร์ที่สามารถแพร่กระจายตัวเองผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยไม่ต้องอาศัยการแทรกแซงจากผู้ใช้ มักใช้ช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการ หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เวิร์มสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว และสร้างความเสียหายต่อระบบเครือข่าย
- ม้าโทรจัน: เป็นมัลแวร์ที่ปลอมตัวเป็นโปรแกรมที่ถูกกฎหมาย หลอกล่อให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดและติดตั้ง เมื่อผู้ใช้ติดตั้งม้าโทรจัน มัลแวร์จะเริ่มทำงานและสร้างความเสียหาย ม้าโทรจันมักใช้เพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัว ควบคุมระบบคอมพิวเตอร์ หรือติดตั้งมัลแวร์อื่นๆ
- สปายแวร์: เป็นมัลแวร์ที่แอบเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต มักติดตั้งมากับโปรแกรมฟรี หรือเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัย สปายแวร์สามารถขโมยข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่าน ข้อมูลบัตรเครดิต ข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลที่ขโมยอาจถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่ผิดกฎหมาย เช่น การโจรกรรมข้อมูล การฉ้อโกง
2. ฟิชชิ่ง (Phishing):
เป็นการหลอกลวงให้ผู้ใช้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่าน ข้อมูลบัญชีธนาคาร ข้อมูลบัตรเครดิต มักใช้รูปแบบของอีเมล ข้อความ หรือเว็บไซต์ปลอมที่แอบอ้างเป็นหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เช่น ธนาคาร บริษัทโซเชียลมีเดีย เมื่อผู้ใช้กรอกข้อมูลส่วนตัวในเว็บไซต์ปลอม ข้อมูลจะถูกส่งไปยังแฮ็กเกอร์
ตัวอย่าง:
- อีเมลแจ้งเตือนจากธนาคารว่าบัญชีถูกระงับ ให้คลิกลิงก์เพื่อยืนยันตัวตน
- ข้อความจาก Facebook แจ้งว่ามีคนพยายามเข้าสู่ระบบบัญชีของคุณ ให้คลิกลิงก์เพื่อเปลี่ยนรหัสผ่าน
- เว็บไซต์ปลอมที่หน้าตาเหมือนเว็บไซต์ธนาคารจริง หลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลล็อกอิน
3. การโจมตีแบบ Social Engineering:
เป็นการใช้กลยุทธ์ทางจิตวิทยาเพื่อหลอกลวงให้ผู้ใช้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวหรือดำเนินการบางอย่างที่ไม่ปลอดภัย มักใช้รูปแบบของการโทรศัพท์ อีเมล ข้อความ หรือการสนทนาออนไลน์
ตัวอย่าง:
- โทรศัพท์จากบุคคลที่อ้างว่าเป็นพนักงานธนาคาร แจ้งว่าบัญชีของคุณมีปัญหา ให้กดหมายเลขโทรศัพท์เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่
- อีเมลจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นเพื่อน แจ้งว่าติดอยู่ต่างประเทศ ต้องการเงินช่วยเหลือ
- ข้อความจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แจ้งว่าคุณมีคดีความ ให้คลิกลิงก์เพื่อดูรายละเอียด
4. การโจมตีแบบ Ransomware:
เป็นการโจมตีทางไซเบอร์ที่เข้ารหัสข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ และเรียกค่าไถ่เพื่อแลกกับการถอดรหัส มักใช้รูปแบบของอีเมลที่ติดมัลแวร์ เว็บไซต์ที่ติดมัลแวร์ หรือช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการ
ตัวอย่าง:
- อีเมลจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นทนายความ แจ้งว่ามีเอกสารสำคัญแนบมา ให้เปิดอ่าน
- เว็บไซต์ปลอมที่หน้าตาเหมือนเว็บไซต์จริง หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดโปรแกรมที่ติดมัลแวร์
- ช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการที่แฮ็กเกอร์สามารถใช้เพื่อเข้ารหัสข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์
ผลกระทบหากขาดทักษะ Digital Security
1. การสูญเสียข้อมูลสำคัญ:
- ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลทางการเงิน รูปถ่าย อาจถูกขโมย
- ข้อมูลธุรกิจ เช่น ข้อมูลลูกค้า เอกสารลับ สูตรลับ อาจถูกขโมย
2. ความเสียหายทางการเงิน:
- เงินในบัญชีธนาคารอาจถูกโอนออก
- บัตรเครดิตอาจถูกนำไปใช้จ่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
- อาจสูญเสียเงินจากการถูกหลอกลวง
3. ความเสียหายต่อชื่อเสียง:
- ข้อมูลส่วนตัวอาจถูกนำไปใช้สร้างบัญชีปลอม
- อาจถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดที่ไม่ได้ทำ
- ชื่อเสียงทางธุรกิจอาจได้รับความเสียหาย
4. ผลกระทบทางจิตใจ:
- ผู้ใช้สูญเสียความเป็นส่วนตัว
- รู้สึกวิตกกังวล กลัว และเครียด
- อาจสูญเสียความไว้วางใจในผู้อื่น
5. ผลกระทบต่อธุรกิจ:
- สูญเสียข้อมูลสำคัญ
- เสียหายทางการเงิน
- เสียชื่อเสียง
- เสียลูกค้า
- เสียโอกาสทางธุรกิจ
แนวทางการสร้างทักษะ Digital Security
- เรียนรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามบนโลกออนไลน์: การเรียนรู้ เกี่ยวกับภัยคุกคามเหล่านี้ จะช่วยให้เราเข้าใจวิธีการทำงาน กลยุทธ์ที่ใช้ และวิธีป้องกันตัวเอง แหล่งข้อมูล เกี่ยวกับภัยคุกคามบนโลกออนไลน์ มีมากมาย เช่น เว็บไซต์ของหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ บทความ ข่าวสาร ฯลฯ
- ใช้รหัสผ่านที่ปลอดภัย: รหัสผ่าน เป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนตัวบนโลกออนไลน์ รหัสผ่านที่ปลอดภัย ควรมี:
- ความยาวอย่างน้อย 12 ตัวอักษร
- ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก
- ตัวเลข
- สัญลักษณ์พิเศษ
- ไม่ควรใช้ รหัสผ่านที่เดาง่าย เช่น วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลส่วนตัว
- ควรเปลี่ยนรหัสผ่าน เป็นประจำ ทุก 3-6 เดือน
- อัปเดตซอฟต์แวร์: ซอฟต์แวร์ ที่ล้าสมัย มักมีช่องโหว่ที่แฮ็กเกอร์สามารถใช้เพื่อโจมตีระบบ การอัปเดตซอฟต์แวร์ เป็นประจำ จะช่วยปิดช่องโหว่เหล่านี้ และเพิ่มความปลอดภัย ซอฟต์แวร์ ที่ควรอัปเดต ได้แก่ ระบบปฏิบัติการ โปรแกรมป้องกันไวรัส เบราว์เซอร์ เว็บแอปพลิเคชั่น
- ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว: การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว บนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ช่วยให้ควบคุมข้อมูลส่วนตัวที่เปิดเผยต่อผู้อื่น ควรตรวจสอบ การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว และปรับให้เหมาะสมกับความต้องการ ตัวอย่างเช่น
- ตั้งค่าบัญชีโซเชียลมีเดียเป็นส่วนตัว
- ปิดการติดตามตำแหน่ง
- จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว
- คิดวิเคราะห์ก่อนคลิกลิงก์ ดาวน์โหลดไฟล์ หรือเปิดอีเมล: การคลิกลิงก์ ดาวน์โหลดไฟล์ หรือเปิดอีเมล จากแหล่งที่ไม่รู้จัก อาจนำไปสู่ภัยคุกคามบนโลกออนไลน์ ควรคิดวิเคราะห์ ก่อนทำสิ่งเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น:
- ตรวจสอบ URL ของลิงก์ก่อนคลิก
- ตรวจสอบผู้ส่งอีเมลก่อนเปิด
- ตรวจสอบนามสกุลของไฟล์ก่อนดาวน์โหลด
- สำรองข้อมูล: การสำรองข้อมูล เป็นประจำ ช่วยให้กู้คืนข้อมูลได้หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ฮาร์ดดิสก์เสีย ข้อมูลถูกลบ หรือถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ ควรสำรองข้อมูล สำคัญทั้งหมด เช่น รูปภาพ เอกสาร ไฟล์งาน ฯลฯ วิธีสำรองข้อมูล มีหลายวิธี เช่น การสำรองข้อมูลบนฮาร์ดดิสก์สำรอง การใช้บริการ Cloud Storage
- ใช้ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย: ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย เช่น โปรแกรมป้องกันไวรัส ไฟร์วอลล์ ช่วยปกป้องระบบจากภัยคุกคามบนโลกออนไลน์ ควรเลือก ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ และอัปเดตให้เป็นประจำ
- ติดตามข่าวสาร: ติดตามข่าวสารที่แจ้งเตือนหรือให้ความรู้เกี่ยวกับภัยบนโลกออนไลน์อยู่เสมอ จะช่วยให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และภัยอันตรายที่เปลี่ยนแปลงตามเทคโนโลยี
สรุป
การป้องกันภัยคุกคามบนโลกออนไลน์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน ผู้ใช้ควรเรียนรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามเหล่านี้และใช้มาตรการป้องกันเพื่อรักษาความปลอดภัยของตัวเอง ครอบครัว ข้อมูลส่วนบุคคล และอุปกรณ์ดิจิทัล
ติดตามบทความน่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่: https://www.think-digital.app/
อ้างอิง
- ภัยคุกคามทางไซเบอร์ https://www.sec.or.th/TH/Pages/CYBERRESILIENCE-KNOWLEDGECYBER.aspx
- คู่มือคนไทย GO Cyber https://www.thaipdf.com/2153-thai-cyber-go-handbook-youth-edition/